แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย ส่วนที่ 2 เป็นที่พัก บริการผู้สูงอายุ เนอร์สซิ่งโฮม และศูนย์สุขภาพ

โครงการ ซีเนียร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ(ภาคเอกชน) เพื่อสมาชิกสหกรณ์และประชาชนชาวไทยผู้ยากไร้ (ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง)

โครงการนี้จัดทำเพื่อกลุ่มเป้าหมายของสมาชิกที่ชัดเจน คือเพื่อสมาชิกสหกรณ์ฯและประชาชนชาวไทยผู้ยากไร้ และข้าราชการบำนาญทุกหน่วยงานพร้อมด้วยประชาชนทั่วไป เป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 8 ชั้นและบ้านเดี่ยวและบ้านแถวที่ปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุในยุคปัจจุบันและ สถานที่ก่อสร้างตั้งโครงการอยู่ ใน 52 จังหวัด จำนวน 800 unit ต่อโครงการ จำหน่ายราคาเริ่มต้น 780,000 บาท ถึง 3.5 ล้านบาท พื้นที่ ห้อง 30 ตารางเมตรถึง 60 ตารางเมตร และบริการฟรีให้กับผู้ด้อยโอกาสที่ขาดการดูแล อีก 10% สุทธิ การบริการนิติบุคคล ประกอบไปด้วย ศูนย์รักษาสุขภาพ และ นันทนาการ 20 กิจกรรม ให้บริการสำหรับผู้สูงวัย ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมทุน และได้รับการสนับสนุนการประกอบกิจการในกิจการของรัฐ ตาม นโยบายของภาครัฐ ประจำปี 2558

กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ออกหนังสือการสนับสนุน ที่ 4040/3149 และได้ทำหนังสือถึงสำนักงานการเคหะแห่งชาติ เลขที่ 4040/ 14323 เพื่อร่วมกันหาแนวทางการทำงานร่วมกันในการลงทุนในกิจการของรัฐภาคเอกชน พร้อมทั้งนี้กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้มอบคู่มือการวิธีการให้บริการ ตามนโยบายภาครัฐที่ได้มาตาฐานในการทำงาน ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน พร้อมรายชื่อประชาชนที่มีความต้องการจะอยู่อาศัยในโครงการของภาครัฐ ที่ลงทะเบียนไว้กับ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการทางสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และ สำนักงานกิจการ ที่อยู่ในการดูแลของ กรมกิจการผู้สูงอายุ ของประเทศไทย เชิญประชุมร่วมกัน ตามเอกสารแนบท้ายมานี้

ดร. สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลงานในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบกิจการในจังหวัดนครปฐม และได้เล็งเห็นว่ารัฐบาลกำลังผลักดันและดำเนินโครงการประชารัฐด้านต่างๆเป็นจำนวนมาก บริษัทฯจึงมีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเฉพาะด้านโดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย จึงเขียนโครงการ ซี่เนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน เพื่อลงทุนในกิจการของรัฐ ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน ปี 2558 และได้ร่วมประชุม ศึกษาหาแนวทางการลงทุนและขอสนับนุการลงทุนในกิจการของภาครัฐ 2558 ต่อ หน่วยงานของรัฐ ผ่านกรมกิจการผู้สูงวัย ผ่านท่าน อธิบดี กรมกิจการผู้สูงอายุ ในเวลานั้น และได้รับหนังสือตอบรับตลอดจน รายชื่อผู้มีความประสงที่จะอยู่อาศัยในโครงการดังกล่าว ซึงมีจำนวนมาก และได้ขอการสนับสนุนจำนวนสมาชิกที่สนใจต่อโครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน ถึงสำนักงานสหกรณ์บริการต่างๆและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จังหวัดนครราชศรีมาและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ โครงการ เพื่อเป็นการวางแผนการอยู่อาศัย ในวัยชราที่สามารถฟื้นฟูคุณภาพชีวิตที่ดีถูกลักษณะการอยู่อาศัยที่ดี ตามนโยบายของรัฐบาล ปี 2558

ลักษณะโครงการ ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นที่พักสำหรับผู้สูงอายุ Active เปิดบริการจำนวน 350- 880 unit ส่วนที่ 2 เป็นที่พัก บริการผู้สูงอายุ เนอร์สซิ่งโฮม และศูนย์สุขภาพ ส่วนที่ 3 เป็น Compact จัดไว้ สำหรับผู้สูงอายุ Active สามารถรองรับ สมาชิกได้ถึง 800-1,600 คน

บริหารการจัดการโดย ดร.สมัย เหมมั่น ผู้ได้รับนโยบายจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯกรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมคู่มือการบริการ ที่ทันสมัยและพร้อมให้บริการแบบมืออาชีพ ภาคเอกชนร่วมกันเปิดโครงการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงวัยหลังเกษียณอายุ ของสมาชิกครูและข้าราชการบำนาญ

การจัดการโครงการมีการลงทุนการก่อสร้างมีหลักการคัดเลือกสรรหาที่ดินในการก่อสร้างดังนี้ 1.การใช้พื้นที่ของรัฐบาลโดยการ ขอใช้พื้นที่ของรัฐบาลผ่าน กรม ธนารักษ์,ที่ดินราชพัสดุ,ที่ดินของหน่วยงาน กรมป่าไม้ เพื่อการเช่าระยะยาวทำโครงการ 2.การใช้พื้นที่ ของสำนักงานการเคหะแห่งชาติหรือ พื้นที่นิติบุคคล เช่น สหกรณ์บริการต่างๆหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยการขอจัดซื้อระหว่างหน่วยงานโดยการทำข้อตำลงต่างๆร่วมกัน 3.การใช้ที่ดิน ของเอกชนโดยการจัดซื้อที่ดินทำโครงการดังกล่าว

แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 5,792,726,400 ล้านบาท (ห้าพันเจ็ดร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน)

ดร.สมัย เหมมั่น ประธานโครงการซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน

โครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน ถึงสำนักงานสหกรณ์บริการต่างๆและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จังหวัดนครราชศรีมาและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ โครงการ เพื่อเป็นการวางแผนการอยู่อาศัย ในวัยชราที่สามารถฟื้นฟูคุณภาพชีวิตที่ดีถูกลักษณะการอยู่อาศัยที่ดี ตามนโยบายของรัฐบาล ปี 2558 ลักษณะโครงการ ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นที่พักสำหรับผู้สูงอายุ Active เปิดบริการจำนวน 350- 880 unit ส่วนที่ 2 เป็นที่พัก บริการผู้สูงอายุ เนอร์สซิ่งโฮม และศูนย์สุขภาพ ส่วนที่ 3 เป็น Compact จัดไว้ สำหรับผู้สูงอายุ Active สามารถรองรับ สมาชิกได้ถึง 800-1,600 คน บริหารการจัดการโดย ดร.สมัย เหมมั่น ผู้ได้รับนโยบายจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯกรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมคู่มือการบริการ ที่ทันสมัยและพร้อมให้บริการแบบมืออาชีพ ภาคเอกชนร่วมกันเปิดโครงการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงวัยหลังเกษียณอายุ ของสมาชิกครูและข้าราชการบำนาญ การจัดการโครงการมีการลงทุนการก่อสร้างมีหลักการคัดเลือกสรรหาที่ดินในการก่อสร้างดังนี้ 1.การใช้พื้นที่ของรัฐบาลโดยการ ขอใช้พื้นที่ของรัฐบาลผ่าน กรม ธนารักษ์,ที่ดินราชพัสดุ,ที่ดินของหน่วยงาน กรมป่าไม้ เพื่อการเช่าระยะยาวทำโครงการ 2.การใช้พื้นที่ ของสำนักงานการเคหะแห่งชาติหรือ พื้นที่นิติบุคคล เช่น สหกรณ์บริการต่างๆหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยการขอจัดซื้อระหว่างหน่วยงานโดยการทำข้อตำลงต่างๆร่วมกัน 3.การใช้ที่ดิน ของเอกชนโดยการจัดซื้อที่ดินทำโครงการดังกล่าว แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 5,792,726,400 ล้านบาท (ห้าพันเจ็ดร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน) แยกดังนี้ 1.จังหวัดชลบุรี จำนวน 880 หน่วย ตำบล หินกอง อำเภอ เมือง จังหวัด ชลบุรี (โครงการซีเนี่ยร์คอทเพล็กซ์ประชารัฐ ภาคเอกชน เมืองชลบุรี ทะเลเพิ่มสุข ) บริหารงานการก่อสร้าง โดย ดร.สมัย เหมมั่น ประธานโครงการและกรรมการบริหารฯและคัดเลือกบริษัทฯมาร่วมบริหารการทำงาน มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 650,000,000 ล้านบาท (หกร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) 2.จังหวัด เพชรบูรณ์ จำนวน 2,400 หน่วย เป็นอาคารชุด ขนาดห้องชุด 35 ตรม. แยกได้ดังนี้ อำเภอ หล่มสัก จำนวน 800 หนวย , อำเภอ หล่มเก่า จำนวน 800 หน่วย , อำเภอ เขาค้อ จำนวน 800 หน่วย จังหวัด เพชรบูรณ์ (ซีเนี่ยร์คอมเพล็ก เพื่อสมาชิก สหกรณ์ ฯข้าราชการและประชาชนทั่วไป) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 1,772,726,400 ล้านบาท (หนึ่งพันเจ้ดร้อยเจ็ดสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยบาทถ้วน) 3.จังหวัดนครปฐม จำนวน 400 หน่วย ขนาด 35 ตรม. ตำบลท่าตำหนัก อำเภอ นครชัยศรี จังหวัด นครปฐม (มายโอโซนไทยเพิ่มสุข) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 320,000,000 ล้านบาท (สามร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) 4.จังหวัด ระนอง แบบอาคารชุด จำนวน 880 หน่วย ตำบล หงาว อำเภอ เมือง จังหวัด ระนอง (มายโอโซนไทยเพิ่มสุข) ) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 650,000,000 ล้านบาท (หกร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) 5.จังหวัด นนทบุรี อาคารชุดจำนวน 1,760 หน่วย บ้านเดี่ยว 150 หลัง แยกได้ดังนี้ 1. ตำบลบางแม่นาง , อำเภอ บางใหญ่ อาคารชุด จำนวน 880 หน่วย บ้านเดี่ยว 150 หลัง 2.ตำบลบางขุนศรี อำเภอ ไทยน้อย อาคารชุด จำนวน 880 หน่วย จังหวัด นนทบุรี (วิลเลคโอโซนไทยเพิ่มสุข) ) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมทุน มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 1,750,000,000 ล้านบาท (หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) 6.จังหวัดลพบุรี อาคารชุดจำนวน 880 หน่วย อำเภอ ชัยบาดาล จังหวัด ลพบุรี (มายโอโซนเพิ่มสุข ) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 650,000,000 ล้านบาท (หกร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 2 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10,560 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 9,000,000,000 ล้านบาท (เก้าพันล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 3 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 14 จังหวัด ภาคเหนือ จำนวน 12,320 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 10,500,000,000 ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 4 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 10 จังหวัด ภาคกลาง จำนวน 8,800 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 7,500,000,000 ล้านบาท (เจ็ดพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 5 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 10 จังหวัด ภาคใต้ จำนวน 8800 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 7,500,000,000 ล้านบาท (พันเจ็ดห้าร้อยล้านบาทถ้วน) รวมทั้งสิ้น 49,110 หน่วย รวมมูลค่าการก่อสร้างโครงการทั้งสิ้น 40,292,726,400 ล้านบาท (สี่หมื่นสองร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลงานในการก่อสร้าง และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากด้วยประสบการณ์ ดำเนินการพัฒนาโครงการเพื่อผู้สูงวัยพร้อมให้การบริการเป็นอย่างดีและทั่วถึงในการให้บริการ โครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน ถึงสำนักงานสหกรณ์บริการต่างๆและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จังหวัดนครราชศรีมาและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ โครงการ เพื่อเป็นการวางแผนการอยู่อาศัย ในวัยชราที่สามารถฟื้นฟูคุณภาพชีวิตที่ดีถูกลักษณะการอยู่อาศัยที่ดี ตามนโยบายของรัฐบาล ปี 2558 ลักษณะโครงการ ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นที่พักสำหรับผู้สูงอายุ Active เปิดบริการจำนวน 350- 880 unit ส่วนที่ 2 เป็นที่พัก บริการผู้สูงอายุ เนอร์สซิ่งโฮม และศูนย์สุขภาพ ส่วนที่ 3 เป็น Compact จัดไว้ สำหรับผู้สูงอายุ Active สามารถรองรับ สมาชิกได้ถึง 800-1,600 คน บริหารการจัดการโดย ดร.สมัย เหมมั่น ผู้ได้รับนโยบายจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯกรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมคู่มือการบริการ ที่ทันสมัยและพร้อมให้บริการแบบมืออาชีพ ภาคเอกชนร่วมกันเปิดโครงการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงวัยหลังเกษียณอายุ ของสมาชิกครูและข้าราชการบำนาญ การจัดการโครงการมีการลงทุนการก่อสร้างมีหลักการคัดเลือกสรรหาที่ดินในการก่อสร้างดังนี้ 1.การใช้พื้นที่ของรัฐบาลโดยการ ขอใช้พื้นที่ของรัฐบาลผ่าน กรม ธนารักษ์,ที่ดินราชพัสดุ,ที่ดินของหน่วยงาน กรมป่าไม้ เพื่อการเช่าระยะยาวทำโครงการ 2.การใช้พื้นที่ ของสำนักงานการเคหะแห่งชาติหรือ พื้นที่นิติบุคคล เช่น สหกรณ์บริการต่างๆหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยการขอจัดซื้อระหว่างหน่วยงานโดยการทำข้อตำลงต่างๆร่วมกัน 3.การใช้ที่ดิน ของเอกชนโดยการจัดซื้อที่ดินทำโครงการดังกล่าว แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 5,792,726,400 ล้านบาท (ห้าพันเจ็ดร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน) แยกดังนี้ 1.จังหวัดชลบุรี จำนวน 880 หน่วย ตำบล หินกอง อำเภอ เมือง จังหวัด ชลบุรี (โครงการซีเนี่ยร์คอทเพล็กซ์ประชารัฐ ภาคเอกชน เมืองชลบุรี ทะเลเพิ่มสุข ) บริหารงานการก่อสร้าง โดย ดร.สมัย เหมมั่น ประธานโครงการและกรรมการบริหารฯและคัดเลือกบริษัทฯมาร่วมบริหารการทำงาน มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 650,000,000 ล้านบาท (หกร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) 2.จังหวัด เพชรบูรณ์ จำนวน 2,400 หน่วย เป็นอาคารชุด ขนาดห้องชุด 35 ตรม. แยกได้ดังนี้ อำเภอ หล่มสัก จำนวน 800 หนวย , อำเภอ หล่มเก่า จำนวน 800 หน่วย , อำเภอ เขาค้อ จำนวน 800 หน่วย จังหวัด เพชรบูรณ์ (ซีเนี่ยร์คอมเพล็ก เพื่อสมาชิก สหกรณ์ ฯข้าราชการและประชาชนทั่วไป) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 1,772,726,400 ล้านบาท (หนึ่งพันเจ้ดร้อยเจ็ดสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยบาทถ้วน) 3.จังหวัดนครปฐม จำนวน 400 หน่วย ขนาด 35 ตรม. ตำบลท่าตำหนัก อำเภอ นครชัยศรี จังหวัด นครปฐม (มายโอโซนไทยเพิ่มสุข) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 320,000,000 ล้านบาท (สามร้อยยี่สิบล้านบาทถ้วน) 4.จังหวัด ระนอง แบบอาคารชุด จำนวน 880 หน่วย ตำบล หงาว อำเภอ เมือง จังหวัด ระนอง (มายโอโซนไทยเพิ่มสุข) ) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 650,000,000 ล้านบาท (หกร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) 5.จังหวัด นนทบุรี อาคารชุดจำนวน 1,760 หน่วย บ้านเดี่ยว 150 หลัง แยกได้ดังนี้ 1. ตำบลบางแม่นาง , อำเภอ บางใหญ่ อาคารชุด จำนวน 880 หน่วย บ้านเดี่ยว 150 หลัง 2.ตำบลบางขุนศรี อำเภอ ไทยน้อย อาคารชุด จำนวน 880 หน่วย จังหวัด นนทบุรี (วิลเลคโอโซนไทยเพิ่มสุข) ) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมทุน มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 1,750,000,000 ล้านบาท (หนึ่งพันเจ็ดร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) 6.จังหวัดลพบุรี อาคารชุดจำนวน 880 หน่วย อำเภอ ชัยบาดาล จังหวัด ลพบุรี (มายโอโซนเพิ่มสุข ) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมบริหาร มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 650,000,000 ล้านบาท (หกร้อยห้าสิบล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 2 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10,560 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 9,000,000,000 ล้านบาท (เก้าพันล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 3 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 14 จังหวัด ภาคเหนือ จำนวน 12,320 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 10,500,000,000 ล้านบาท (หนึ่งหมื่นห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 4 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 10 จังหวัด ภาคกลาง จำนวน 8,800 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 7,500,000,000 ล้านบาท (เจ็ดพันห้าร้อยล้านบาทถ้วน) ระยะที่ 5 แผนงาน สร้างเชิงรุก โครงการ 10 จังหวัด ภาคใต้ จำนวน 8800 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 7,500,000,000 ล้านบาท (พันเจ็ดห้าร้อยล้านบาทถ้วน) รวมทั้งสิ้น 49,110 หน่วย รวมมูลค่าการก่อสร้างโครงการทั้งสิ้น 40,292,726,400 ล้านบาท (สี่หมื่นสองร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน) ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลงานในการก่อสร้าง และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มากด้วยประสบการณ์ ดำเนินการพัฒนาโครงการเพื่อผู้สูงวัยพร้อมให้การบริการเป็นอย่างดีและทั่วถึงในการให้บริการ ดร.สมัย เหมมั่น ประธานโครงการซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐภาคเอกชน

แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 5,792,726,400 ล้านบาท

โครงการ ซีเนียร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ(ภาคเอกชน) เพื่อสมาชิกสหกรณ์และประชาชนชาวไทยผู้ยากไร้ (ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง) โครงการนี้จัดทำเพื่อกลุ่มเป้าหมายของสมาชิกที่ชัดเจน คือเพื่อสมาชิกสหกรณ์ฯและประชาชนชาวไทยผู้ยากไร้ และข้าราชการบำนาญทุกหน่วยงานพร้อมด้วยประชาชนทั่วไป เป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 8 ชั้นและบ้านเดี่ยวและบ้านแถวที่ปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุในยุคปัจจุบันและ สถานที่ก่อสร้างตั้งโครงการอยู่ ใน 52 จังหวัด จำนวน 800 unit ต่อโครงการ จำหน่ายราคาเริ่มต้น 780,000 บาท ถึง 3.5 ล้านบาท พื้นที่ ห้อง 30 ตารางเมตรถึง 60 ตารางเมตร และบริการฟรีให้กับผู้ด้อยโอกาสที่ขาดการดูแล อีก 10% สุทธิ การบริการนิติบุคคล ประกอบไปด้วย ศูนย์รักษาสุขภาพ และ นันทนาการ 20 กิจกรรม ให้บริการสำหรับผู้สูงวัย ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมทุน และได้รับการสนับสนุนการประกอบกิจการในกิจการของรัฐ ตาม นโยบายของภาครัฐ ประจำปี 2558 กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ออกหนังสือการสนับสนุน ที่ 4040/3149 และได้ทำหนังสือถึงสำนักงานการเคหะแห่งชาติ เลขที่ 4040/ 14323 เพื่อร่วมกันหาแนวทางการทำงานร่วมกันในการลงทุนในกิจการของรัฐภาคเอกชน พร้อมทั้งนี้กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้มอบคู่มือการวิธีการให้บริการ ตามนโยบายภาครัฐที่ได้มาตาฐานในการทำงาน ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน พร้อมรายชื่อประชาชนที่มีความต้องการจะอยู่อาศัยในโครงการของภาครัฐ ที่ลงทะเบียนไว้กับ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการทางสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และ สำนักงานกิจการ ที่อยู่ในการดูแลของ กรมกิจการผู้สูงอายุ ของประเทศไทย เชิญประชุมร่วมกัน ตามเอกสารแนบท้ายมานี้

ดร. สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลงานในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบกิจการในจังหวัดนครปฐม และได้เล็งเห็นว่ารัฐบาลกำลังผลักดันและดำเนินโครงการประชารัฐด้านต่างๆเป็นจำนวนมาก บริษัทฯจึงมีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเฉพาะด้านโดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย จึงเขียนโครงการ ซี่เนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน เพื่อลงทุนในกิจการของรัฐ ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน ปี 2558 และได้ร่วมประชุม ศึกษาหาแนวทางการลงทุนและขอสนับนุการลงทุนในกิจการของภาครัฐ 2558 ต่อ หน่วยงานของรัฐ ผ่านกรมกิจการผู้สูงวัย ผ่านท่าน อธิบดี กรมกิจการผู้สูงอายุ ในเวลานั้น และได้รับหนังสือตอบรับตลอดจน รายชื่อผู้มีความประสงที่จะอยู่อาศัยในโครงการดังกล่าว ซึงมีจำนวนมาก และได้ขอการสนับสนุนจำนวนสมาชิกที่สนใจต่อโครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน ถึงสำนักงานสหกรณ์บริการต่างๆและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จังหวัดนครราชศรีมาและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ โครงการ เพื่อเป็นการวางแผนการอยู่อาศัย ในวัยชราที่สามารถฟื้นฟูคุณภาพชีวิตที่ดีถูกลักษณะการอยู่อาศัยที่ดี ตามนโยบายของรัฐบาล ปี 2558

ลักษณะโครงการ ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นที่พักสำหรับผู้สูงอายุ Active เปิดบริการจำนวน 350- 880 unit ส่วนที่ 2 เป็นที่พัก บริการผู้สูงอายุ เนอร์สซิ่งโฮม และศูนย์สุขภาพ ส่วนที่ 3 เป็น Compact จัดไว้ สำหรับผู้สูงอายุ Active สามารถรองรับ สมาชิกได้ถึง 800-1,600 คน

บริหารการจัดการโดย ดร.สมัย เหมมั่น ผู้ได้รับนโยบายจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯกรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมคู่มือการบริการ ที่ทันสมัยและพร้อมให้บริการแบบมืออาชีพ ภาคเอกชนร่วมกันเปิดโครงการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงวัยหลังเกษียณอายุ ของสมาชิกครูและข้าราชการบำนาญ การจัดการโครงการมีการลงทุนการก่อสร้างมีหลักการคัดเลือกสรรหาที่ดินในการก่อสร้างดังนี้ 1.การใช้พื้นที่ของรัฐบาลโดยการ ขอใช้พื้นที่ของรัฐบาลผ่าน กรม ธนารักษ์,ที่ดินราชพัสดุ,ที่ดินของหน่วยงาน กรมป่าไม้ เพื่อการเช่าระยะยาวทำโครงการ 2.การใช้พื้นที่ ของสำนักงานการเคหะแห่งชาติหรือ พื้นที่นิติบุคคล เช่น สหกรณ์บริการต่างๆหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยการขอจัดซื้อระหว่างหน่วยงานโดยการทำข้อตำลงต่างๆร่วมกัน 3.การใช้ที่ดิน ของเอกชนโดยการจัดซื้อที่ดินทำโครงการดังกล่าว

แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 5,792,726,400 ล้านบาท (ห้าพันเจ็ดร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน)

แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 5,792,726,400 ล้านบาท (ห้าพันเจ็ดร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน)

โครงการ ซีเนียร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ(ภาคเอกชน) เพื่อสมาชิกสหกรณ์และประชาชนชาวไทยผู้ยากไร้ (ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง) โครงการนี้จัดทำเพื่อกลุ่มเป้าหมายของสมาชิกที่ชัดเจน คือเพื่อสมาชิกสหกรณ์ฯและประชาชนชาวไทยผู้ยากไร้ และข้าราชการบำนาญทุกหน่วยงานพร้อมด้วยประชาชนทั่วไป เป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 8 ชั้นและบ้านเดี่ยวและบ้านแถวที่ปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุในยุคปัจจุบันและ สถานที่ก่อสร้างตั้งโครงการอยู่ ใน 52 จังหวัด จำนวน 800 unit ต่อโครงการ จำหน่ายราคาเริ่มต้น 780,000 บาท ถึง 3.5 ล้านบาท พื้นที่ ห้อง 30 ตารางเมตรถึง 60 ตารางเมตร และบริการฟรีให้กับผู้ด้อยโอกาสที่ขาดการดูแล อีก 10% สุทธิ การบริการนิติบุคคล ประกอบไปด้วย ศูนย์รักษาสุขภาพ และ นันทนาการ 20 กิจกรรม ให้บริการสำหรับผู้สูงวัย ดร.สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์คัดเลือกบริษัท มาร่วมทุน และได้รับการสนับสนุนการประกอบกิจการในกิจการของรัฐ ตาม นโยบายของภาครัฐ ประจำปี 2558 กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ออกหนังสือการสนับสนุน ที่ 4040/3149 และได้ทำหนังสือถึงสำนักงานการเคหะแห่งชาติ เลขที่ 4040/ 14323 เพื่อร่วมกันหาแนวทางการทำงานร่วมกันในการลงทุนในกิจการของรัฐภาคเอกชน พร้อมทั้งนี้กรมกิจการผู้สูงอายุ ได้มอบคู่มือการวิธีการให้บริการ ตามนโยบายภาครัฐที่ได้มาตาฐานในการทำงาน ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน พร้อมรายชื่อประชาชนที่มีความต้องการจะอยู่อาศัยในโครงการของภาครัฐ ที่ลงทะเบียนไว้กับ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการทางสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา และ สำนักงานกิจการ ที่อยู่ในการดูแลของ กรมกิจการผู้สูงอายุ ของประเทศไทย เชิญประชุมร่วมกัน ตามเอกสารแนบท้ายมานี้

ดร. สมัย เหมมั่น เป็นผู้ประกอบกิจการในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลงานในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบกิจการในจังหวัดนครปฐม และได้เล็งเห็นว่ารัฐบาลกำลังผลักดันและดำเนินโครงการประชารัฐด้านต่างๆเป็นจำนวนมาก บริษัทฯจึงมีความประสงค์ที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเฉพาะด้านโดยเฉพาะการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย จึงเขียนโครงการ ซี่เนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน เพื่อลงทุนในกิจการของรัฐ ตาม พรบ.ส่งเสริมการลงทุน ปี 2558 และได้ร่วมประชุม ศึกษาหาแนวทางการลงทุนและขอสนับนุการลงทุนในกิจการของภาครัฐ 2558 ต่อ หน่วยงานของรัฐ ผ่านกรมกิจการผู้สูงวัย ผ่านท่าน อธิบดี กรมกิจการผู้สูงอายุ ในเวลานั้น และได้รับหนังสือตอบรับตลอดจน รายชื่อผู้มีความประสงที่จะอยู่อาศัยในโครงการดังกล่าว ซึงมีจำนวนมาก และได้ขอการสนับสนุนจำนวนสมาชิกที่สนใจต่อโครงการ ซีเนี่ยร์คอมเพล็กซ์ ประชารัฐ ภาคเอกชน ถึงสำนักงานสหกรณ์บริการต่างๆและสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จังหวัดนครราชศรีมาและสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ ในพื้นที่ โครงการ เพื่อเป็นการวางแผนการอยู่อาศัย ในวัยชราที่สามารถฟื้นฟูคุณภาพชีวิตที่ดีถูกลักษณะการอยู่อาศัยที่ดี ตามนโยบายของรัฐบาล ปี 2558 ลักษณะโครงการ ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นที่พักสำหรับผู้สูงอายุ Active เปิดบริการจำนวน 350- 880 unit ส่วนที่ 2 เป็นที่พัก บริการผู้สูงอายุ เนอร์สซิ่งโฮม และศูนย์สุขภาพ ส่วนที่ 3 เป็น Compact จัดไว้ สำหรับผู้สูงอายุ Active สามารถรองรับ สมาชิกได้ถึง 800-1,600 คน

บริหารการจัดการโดย ดร.สมัย เหมมั่น ผู้ได้รับนโยบายจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯกรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมคู่มือการบริการ ที่ทันสมัยและพร้อมให้บริการแบบมืออาชีพ ภาคเอกชนร่วมกันเปิดโครงการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงวัยหลังเกษียณอายุ ของสมาชิกครูและข้าราชการบำนาญ การจัดการโครงการมีการลงทุนการก่อสร้างมีหลักการคัดเลือกสรรหาที่ดินในการก่อสร้างดังนี้ 1.การใช้พื้นที่ของรัฐบาลโดยการ ขอใช้พื้นที่ของรัฐบาลผ่าน กรม ธนารักษ์,ที่ดินราชพัสดุ,ที่ดินของหน่วยงาน กรมป่าไม้ เพื่อการเช่าระยะยาวทำโครงการ 2.การใช้พื้นที่ ของสำนักงานการเคหะแห่งชาติหรือ พื้นที่นิติบุคคล เช่น สหกรณ์บริการต่างๆหรือสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยการขอจัดซื้อระหว่างหน่วยงานโดยการทำข้อตำลงต่างๆร่วมกัน 3.การใช้ที่ดิน ของเอกชนโดยการจัดซื้อที่ดินทำโครงการดังกล่าว แผนงานการก่อสร้าง แบ่งเป็น 5 ระยะ ระยะที่ 1 แผนงาน สร้างโมเดล โครงการ 6 จังหวัด จำนวน 7,350 หน่วย มูลค่าการก่อสร้างโครงการ 5,792,726,400 ล้านบาท (ห้าพันเจ็ดร้อยเก้าสิบสองล้านเจ็ดแสนสองหมื่นหกพันสี่ร้อยล้านบาทถ้วน)